ประวัติความเป็นมา

สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ เริ่มแรกจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติวิทยาลัยครู (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2527 ที่กำหนดให้ออกพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการแบ่งส่วนราชการของวิทยาลัยครูบุรีรัมย์ โดยใช้ชื่อว่า  “ศูนย์วิจัยและบริการการศึกษา”  มีหน้าที่เกี่ยวกับการวิจัยและบริการด้านการฝึกอบรมการบริการและพัฒนาชุมชนในด้านต่างๆ  ต่อมาเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2535  พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม วิทยาลัยครูทั่วประเทศว่า “สถาบันราชภัฏ” จึงได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างและเปลี่ยนชื่อเป็น “สำนักวิจัยและบริการวิชาการ” และในปี พ.ศ. 2547 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธย  ในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.2547 อันมีผลให้สถาบันราชภัฏทั่วประเทศเปลี่ยนชื่อเป็น มหาวิทยาลัยราชภัฏและมีสภาพเป็นนิติบุคคลโดยสมบูรณ์ ส่งผลให้สถาบันราชภัฏบุรีรัมย์เปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ และมีการปรับโครงสร้างใหม่เป็น “สถาบันวิจัยและพัฒนา”  (Research and Development  Institute)

นโยบาย 
ส่งเสริม พัฒนาคุณภาพงานวิจัยด้วยระบบบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดพลังแห่งปัญญา สู่การพัฒนาท้องถิ่น

วัตถุประสงค์

  1.   เพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านงานวิจัยให้กับคณาจารย์ นักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัย
  2. เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถาบัน บุคคล หน่วยงานทั้งภายในและภายนอกเพื่อการพัฒนาสถาบัน ชุมชน สังคม เครือข่ายการวิจัยในท้องถิ่นและระดับประเทศ
  3. เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้คณาจารย์ นักวิจัยและนักศึกษา มีศักยภาพในด้านการวิจัยสูงขึ้น สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาท้องถิ่นได้
  4. เพื่อจัดตั้งศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นให้เป็นแหล่งค้นคว้าวิจัยและให้บริการชุมชนที่ส่งผลต่อการพัฒนาสถาบันและชุมชน
  5. เพื่อจัดระบบงานวิจัยด้วยการจัดการความรู้ ให้มีคุณภาพสามารถตีพิมพ์ เผยแพร่ทั้งในระดับชาติ และนานาชาติ

ปรัชญา สถาบันวิจัยและพัฒนา (Philosophy of RDI)

วิจัย สร้างองค์ความรู้ สู่ความเป็นเลิศ เชิดชูภูมิปัญญา เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น

วิสัยทัศน์ ของสถาบันวิจัยและพัฒนา (Vision of RDI)

พัฒนาระบบบริหารจัดการ  และยกระดับคุณภาพมาตรฐานการวิจัยและพัฒนาสู่มาตรฐานสากล

พันธกิจของสถาบันวิจัยและพัฒนา (Mission of RDI)

  1. สร้างสมรรถนะด้านงานวิจัยให้กับคณาจารย์ นักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัย
  2. สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถาบัน บุคคล หน่วยงาน ทั้งภายในและภายนอกเพื่อการพัฒนาสถาบัน ชุมชน  สังคมเครือข่ายการวิจัยในท้องถิ่นและระดับประเทศ
  3. ส่งเสริม สนับสนุนให้คณาจารย์และบุคลากรได้รับความรู้การทำวิจัยอย่างต่อเนื่อง
  4. รวบรวมข้อมูลในสถาบันและท้องถิ่นเพื่อเป็นศูนย์ข้อมูลเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น
  5. การจัดการความรู้เพื่อการเผยแพร่ผลงานวิจัยสู่การนำไปใช้ประโยชน์